ประโยชน์ของการติดตั้งคาปาซิเตอร์มีอะไรบ้าง?

อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือโหลดที่ติดตั้งใช้งานอยู่ในระบบส่วนใหญ่เป็นชนิดที่ต้องการ Reactive Power ผลกระทบจากการใช้โหลดเหล่านี้จะทำให้ระบบมีค่ากำลังไฟฟ้าสูญเสียสูงขึ้น เนื่องจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าต้องชดเชยค่า Reactive Power ให้กับโหลดดังกล่าวเป็นผลให้ขีดความสามารถในการจ่ายค่า Active Power ลดลง ดังนั้นหากโหลดประเภทนี้มีปริมาณการใช้ในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นก็อาจส่งผลให้จำเป็นต้องติดตั้งหรือปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มขนาดของอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายกำลังไฟฟ้าก่อนถึงระยะเวลาอันสมควร ซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าและราคาอัตราค่าไฟฟ้าสูงขึ้น และหากพิจารณาอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆที่สามารถจ่ายค่า Reactive Power ได้เช่นเดียวกับแหล่งจ่ายไฟฟ้า จะพบว่ามีเพียงเครื่องจักรกลซิงโครนัสและคาปาซิเตอร์เท่านั้นที่สามารถทำได้

• คาปาซิเตอร์มีคุณสมบัติที่ดีอยู่หลายประการ ซึ่งนอกจากจะติดตั้งได้ง่ายแล้วยังมีราคาที่ถูกกว่าเครื่องจักกลซิงโครนัส และประการที่สำคัญ คือ มีกำลังสูญเสียในตัวเองที่ต่ำมาก ในปัจจุบันสามารถผลิตคาปาซิเตอร์ที่มีกำลังสูญเสียในตัวเองได้ต่ำกว่า 0.5 W/kVAR และมีให้เลือกใช้งานหลายขนาดเพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณโหลดในแต่ละพื้นที่ การปรับปรุงค่า Power Factor ของระบบไฟฟ้าให้มีค่าที่สูงขึ้นจะให้ผลที่ดีต่อระบบอยู่หลายประการ เช่น ช่วยลดค่าความกำลังไฟฟ้าสูญเสียในหม้อแปลงและสายตัวนำไฟฟ้า, ช่วยเพิ่มความสามารถในการรับกระแสของอุปกรณ์ไฟฟ้า, ช่วยเพิ่มหรือยกแรงดันไฟฟ้าที่ปลายสายให้สูงขึ้น และช่วยไม่ให้ถูกปรับค่า VAR Charge จากการไฟฟ้าฯ ในกรณีที่ค่า Power Factor ต่ำกว่า 0.85

ที่มาของข้อมูล : หนังสือปัญหาเทคนิคด้านคุณภาพไฟฟ้าอุตสาหกรรม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความอาจเป็นรูปภาพของ ข้อความอาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

Content's Picture

Comment(s)


Vote this Content ?

Create by :


Witsanu8613

Status : ผู้ใช้ทั่วไป
ไฟฟ้ากำลัง